Ericsson (NASDAQ: ERIC) today announced that it has extended its Global Framework Agreement for operational services and software with Telenor to October 2024.
The original agreement, signed in 2017, was aimed at creating a Common Delivery Centre (CDC) for multiple services such as Network Operations (including enhanced Network Operations Centre automation) Network Design, Planning and Optimization, First Level Operations & intelligent Field Operations, Project Management and Network Implementation Services. As part of the renewal, Ericsson will also deliver its Cognitive Software for planning and tuning. The framework agreement supports the partnerships between Ericsson and Telenor Malaysia (Digi) and Thailand (dtac).
Telenor and Ericsson have jointly received an industry award for CDC achievements in the past.
Rita Mobkel, Head of Global Customer Unit Telenor at Ericsson states, “Ericsson has helped in creating sustainable differentiation for Telenor towards their customers with enhanced performance in multiple dimensions by moving from network-centric operations to user experience-centric operations, using automation and artificial intelligence, while striving for continuous improvement and leveraging Ericsson Operations Engine capabilities for further excellence.”
The Ericsson Operations Engine, an AI powered data-driven approach to network managed services, has enabled Telenor to ensure next-generation connectivity and allow its customers to benefit from secure and reliable network performance as well as enhanced user experience.
Pradeep Kotnala, Head of Network Operations and Managed Services, Ericsson South-east Asia, Oceania and India states,” Ericsson’s industry-leading suite of Cognitive Software solutions provides a unique integration of network design and optimization domain knowledge with advanced AI technologies to truly unleash the full potential of next-generation networks.”
Telenor and Ericsson are collaborating further to explore customer centric services in areas like Private Network and Cloud based services that can leverage experience and evolved capabilities from Common Delivery Centre.
อีริคสัน (NASDAQ: ERIC) ประกาศวันนี้ว่า บริษัทฯ ได้ขยายกรอบความตกลงว่าด้วยการปฏิบัติการด้านบริการและซอฟต์แวร์ (Global Framework Agreement for Operational Services and Software) ร่วมกับเทเลนอร์ จนถึงเดือนตุลาคม พ.ศ.2567
จากข้อตกลงฉบับแรกที่ลงนามไว้ในปี พ.ศ.2560 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้าง Common Delivery Center (CDC) สำหรับบริการหลากหลาย อาทิ การปฏิบัติการเครือข่าย (รวมถึงการเพิ่มศักยภาพระบบอัตโนมัติของศูนย์ปฏิบัติการเครือข่าย) การออกแบบเครือข่าย การวางแผนและการเพิ่มประสิทธิภาพเครือข่าย การดำเนินงานขั้นต้นและการปฏิบัติการภาคสนามอัจฉริยะ การจัดการโครงการและการนำเครือข่ายมาใช้เพิ่มประสิทธิภาพแก่บริการต่าง ๆ นอกจากนี้อีริคสันจะส่งมอบ Cognitive Software สำหรับการวางแผนและปรับแต่งเครือข่าย ตามที่ระบุไว้ในการขยายความร่วมมือ ซึ่งกรอบข้อตกลงดังกล่าวนี้ครอบคลุมความร่วมมือระหว่างอีริคสันและเทเลนอร์ในมาเลเซีย (Digi)และไทย (dtac)
ที่ผ่านมาเทเลนอร์และอีริคสันได้รับรางวัลร่วมกันด้านความสำเร็จของการดำเนินงาน CDC ในอุตสาหกรรมโทรคมนาคม
ริต้า มอบเคล หัวหน้ากลุ่มลูกค้าระดับโลก (GCU Telenor) ของอีริคสัน กล่าวว่า “อีริคสันช่วยสร้างความแตกต่างอย่างยั่งยืนให้กับเทเลนอร์และยังส่งต่อไปยังลูกค้าของเทเลนอร์ ด้วยประสิทธิภาพที่พัฒนาเพิ่มขึ้นในหลากมิติ เปลี่ยนการปฏิบัติงานที่เน้นเครือข่ายเป็นสำคัญไปสู่การเน้นประสบการณ์ผู้ใช้เป็นหลัก ด้วยการใช้ระบบอัตโนมัติและเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ ขณะที่ยังมุ่งมั่นพัฒนาและใช้ประโยชน์จากความสามารถของแพลตฟอร์ม Ericsson Operations Engine อย่างต่อเนื่อง เพื่อความเป็นเลิศในการให้บริการต่อไป”
Ericsson Operations Engine เป็นแพลตฟอร์มที่ใช้เทคโนโลยีเอไอมาขับเคลื่อนข้อมูลให้กับบริการจัดการข้อมูล ซึ่งทำให้เทเลนอร์สามารถรองรับการเชื่อมต่อในอนาคตได้ พร้อมช่วยให้ลูกค้าได้รับประโยชน์จากประสิทธิภาพของเครือข่ายที่มีความปลอดภัยและเชื่อถือได้ ตลอดจนมอบประสบการณ์การใช้งานเครือข่ายแก่ผู้ใช้ได้ดียิ่งขึ้น
ปราดีป คอตนาลา หัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการเครือข่ายและบริการจัดการข้อมูล, ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โอเชียเนียและอินเดียของอีริคสัน กล่าวว่า “ชุดโซลูชั่น Cognitive Software ชั้นนำในอุตสาหกรรมของ Ericsson นำเสนอการบูรณาการด้านการออกแบบเครือข่ายและเพิ่มประสิทธิภาพให้โดเมนด้วยเทคโนโลยีเอไอระดับสูง ซึ่งสามารถปลดปล่อยศักยภาพเครือข่ายยุคหน้าได้อย่างแท้จริง”
เทเลนอร์และอีริคสันกำลังทำงานร่วมกันเพื่อพัฒนาบริการต่าง ๆ ที่เน้นลูกค้าเป็นศูนย์กลาง อาทิ เครือข่ายส่วนตัว (Private Network) และบริการบนคลาวด์ (Cloud Based Services) ที่สามารถใช้ประโยชน์ด้านประสบการณ์และความสามารถที่พัฒนาเพิ่มขึ้นจาก Common Delivery Center
