Cisco

ซิสโก้นำเสนอเทคโนโลยีใหม่ ลดความยุ่งยากซับซ้อนของระบบซีเคียวริตี้ ยกระดับความคล่องตัว ความสะดวกในการใช้งาน และความยืดหยุ่น

ซิสโก้นำเสนอเทคโนโลยีใหม่ ลดความยุ่งยากซับซ้อนของระบบซีเคียวริตี้ ยกระดับความคล่องตัว ความสะดวกในการใช้งาน และความยืดหยุ่น


ประเด็นข่าว:

  • ซิสโก้เปิดตัวนวัตกรรมด้านการรักษาความปลอดภัย เพิ่มความสะดวกในการใช้งานกลุ่มผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น XDR, Zero Trust และ SASE
  • นับตั้งแต่ที่เริ่มวางจำหน่ายทั่วโลกเมื่อเดือนมิถุนายน Cisco SecureX แพลตฟอร์มการรักษาความปลอดภัยแบบคลาวด์เนทีฟ มีลูกค้าเพิ่มขึ้นกว่า 1,000 รายต่อเดือน ให้ผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมแก่ลูกค้า ลดระยะเวลาที่ใช้ในการตรวจจับภัยคุกคามได้ถึง 95 เปอร์เซ็นต์ และลดระยะเวลาแก้ไขปัญหา 85 เปอร์เซ็นต์
  • พาร์ทเนอร์นำเสนอหนทางใหม่ๆ ให้แก่ลูกค้าสำหรับการอัพเกรดระบบรักษาความปลอดภัยด้วยโซลูชั่น Cisco Secure พร้อมสิทธิ์ผ่อนชำระอัตราดอกเบี้ย 0%

กรุงเทพฯ-3 พฤศจิกายน 2563 ซิสโก้ช่วยให้ลูกค้าและพาร์ทเนอร์พลิกโฉมรูปแบบการทำงานของบุคลากรและการดำเนินงานขององค์กร ด้วยนวัตกรรมล่าสุดด้านการรักษาความปลอดภัย ซึ่งจะช่วยเพิ่มความคล่องตัว ความเรียบง่าย และความยืดหยุ่นของระบบ รองรับการแก้ไขปัญหาท้าทายด้านความปลอดภัยทั้งในปัจจุบันและอนาคต  โดยวันนี้ กลุ่มธุรกิจซีเคียวริตี้ของซิสโก้ได้เปิดตัวนวัตกรรมแพลตฟอร์มหลายรายการ ครอบคลุมกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย เช่น การปรับปรุงความสามารถใน Extended Detection and Response (XDR), Zero Trust และ Secure Access Services Edge (SASE)

นายจี ริตเทนเฮาส์ รองประธานอาวุโสและผู้จัดการทั่วไป กลุ่มธุรกิจซีเคียวริตี้ของซิสโก้ กล่าวว่า “องค์กรต่างๆ จำเป็นที่ต้องการสร้างธุรกิจที่มีความยืดหยุ่นมากขึ้น เพื่อให้สามารถอยู่รอดและประสบความสำเร็จท่ามกลางสภาวะความไม่แน่นอนที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน  ขณะที่เรากำลังก้าวเข้าสู่โลกวิถีใหม่ เราพบว่ามีการปรับใช้รูปแบบการทำงานใหม่ๆ กันอย่างกว้างขวางและรวดเร็วมากขึ้น ส่งผลให้องค์กรต่างๆ จำเป็นที่จะต้องพัฒนาปรับปรุงแนวทางไซเบอร์ซีเคียวริตี้ เพื่อให้บุคลากรสามารถเชื่อมต่อถึงกันได้อย่างปลอดภัยทุกที่ทุกเวลา และบนทุกอุปกรณ์  Cisco SecureX ประกอบสร้างขึ้นจากกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีความหลากหลายและครบวงจรมากที่สุดในอุตสาหกรรม โดยครอบคลุมทั้งในส่วนของเครือข่าย อุปกรณ์ปลายทาง ระบบคลาวด์ และแอปพลิเคชัน ช่วยให้ลูกค้าและพาร์ทเนอร์สามารถปกป้องกระบวนการทำงานที่มีอยู่ในปัจจุบัน รวมถึงการทำงานรูปแบบใหม่ๆ ในอนาคต”

ลูกค้าและพาร์ทเนอร์ที่ปรับใช้แนวทางแพลตฟอร์มในการจัดการระบบรักษาความปลอดภัยได้รับผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมและสามารถวัดผลได้อย่างชัดเจน โดยนอกจากจะช่วยเพิ่มความสะดวกในการใช้งานและประสิทธิภาพแล้ว ยังช่วยปรับปรุงความยืดหยุ่นของธุรกิจ และทำให้องค์กรมีระบบป้องกันที่ก้าวล้ำเหนือกว่ากลุ่มคนร้ายที่มุ่งโจมตีองค์กร  Cisco SecureX ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการรักษาความปลอดภัยแบบคลาวด์เนทีฟที่กว้างขวางและครบวงจรมากที่สุดในอุตสาหกรรม เริ่มวางจำหน่ายทั่วโลกตั้งแต่ปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา โดยนำเสนอเทคโนโลยีหลักๆ ที่สำคัญ และให้ผลลัพธ์ด้านการรักษาความปลอดภัยที่เป็นรูปธรรมแก่องค์กรต่างๆ กว่า 4,000 องค์กรจนถึงปัจจุบัน  ทั้งนี้ ลูกค้ายืนยันว่า:

  • แพลตฟอร์มดังกล่าวช่วยลดระยะเวลาที่ใช้ในการตรวจจับภัยคุกคามได้ถึง 95 เปอร์เซ็นต์ และลดระยะเวลาในการแก้ไขปัญหาได้ 85 เปอร์เซ็นต์
  • ลูกค้ากว่าครึ่งหนึ่งระบุว่าสามารถประหยัดเวลาได้ถึง 6 ชั่วโมงต่อสัปดาห์สำหรับการตอบสนองต่อเหตุการณ์ด้านความปลอดภัย ซึ่งเท่ากับว่าจะสามารถประหยัดเวลาได้กว่า 2 สัปดาห์ต่อปีสำหรับการดำเนินการที่เกี่ยวข้อง
  • ลูกค้า 82 เปอร์เซ็นต์เน้นย้ำถึงความสำคัญของการที่แพลตฟอร์มของซิสโก้สามารถเชื่อมต่อกับเครื่องมือด้านการรักษาความปลอดภัยของบริษัทอื่นๆ จึงรองรับการตรวจสอบอย่างรอบด้านและทั่วถึง

นายวูเตอร์ ฮินดริกส์ หัวหน้าทีมฝ่ายเครือข่ายและการรักษาความปลอดภัยของ Missing Piece กล่าวว่า “การใช้งาน SecureX ทำได้ง่ายมาก  เครื่องมือนี้มีประสิทธิภาพสูงอย่างแท้จริง ช่วยให้เราสามารถดำเนินการแบบอัตโนมัติได้อย่างง่ายดายสำหรับแต่ละเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น  การบูรณาการเข้ากับระบบของบริษัทอื่นช่วยให้เราสามารถเชื่อมโยงข้อมูลจากแหล่งต่างๆ เข้าด้วยกัน ทั้งแหล่งข้อมูลภายในองค์กรและแหล่งข้อมูลสาธารณะ และแสดงผลข้อมูลความปลอดภัยบนแดชบอร์ดเดียวกันได้อย่างชัดเจนและมีประสิทธิภาพ”

นายลูคัส มอพิน วิศวกรของ Volta Inc. กล่าวว่า “ทีมงานฝ่ายรักษาความปลอดภัยของเราเพิ่งจัดตั้งขึ้นได้ไม่นาน ดังนั้นเราจึงมีความสามารถในการตรวจสอบระบบต่างๆ อย่างทั่วถึง แต่ไม่มีข้อมูลข่าวกรองด้านความปลอดภัย  ฟีเจอร์การตอบสนองต่อภัยคุกคามของ SecureX ช่วยผสานรวมข้อมูลจากแหล่งต่างๆ เข้าด้วยกัน และช่วยให้เราสามารถใช้ข้อมูลด้านความปลอดภัยได้อย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ”

นายแมทธิว ปาล์ม ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีของ R1i Technologies “สำหรับเราแล้ว SecureX คือเครื่องมือสำคัญที่ช่วยพลิกเปลี่ยนสถานการณ์ โดยนับเป็นองค์ประกอบที่สำคัญสำหรับโซลูชั่นที่ซิสโก้นำเสนอ และเป็นตัวเชื่อมโยงเทคโนโลยีทั้งหมดของซิสโก้เข้าไว้ด้วยกัน ส่งผลให้ลูกค้าจำนวนมากที่มีเทคโนโลยีบางอย่างของซิสโก้ทำการประเมินสถานะความปลอดภัยของตนเอง และตัดสินใจที่จะยกเลิกการใช้งานโซลูชั่นแบบติดตั้งเฉพาะจุดที่มีอยู่ และเปลี่ยนไปใช้แพลตฟอร์มของซิสโก้แทน  เราได้ผูกโยงแพลตฟอร์มนี้เข้ากับแนวทางความสำเร็จของลูกค้า และเราพบว่าโอกาสและช่องทางธุรกิจของเราเพิ่มขึ้นราว 32 เปอร์เซ็นต์ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา”

นายเควิน คริตช์ ผู้อำนวยการฝ่ายโซลูชั่นการรักษาความปลอดภัยของ Ignite Security กล่าวว่า “SecureX นำเสนอประสบการณ์การใช้งานแพลตฟอร์มที่ดีเยี่ยมสำหรับลูกค้าของเรา โดยจัดหาแนวทางการรักษาความปลอดภัยที่รอบด้านและครบวงจร พร้อมทั้งยกระดับขีดความสามารถในการตรวจสอบอย่างทั่วถึงบนผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย เพื่อรองรับการวิเคราะห์ข้อมูลอย่างครบถ้วนสมบูรณ์ และปรับปรุงประสิทธิภาพในการจัดการภัยคุกคาม  ล่าสุดแพลตฟอร์ม SecureX ทำให้เราได้รับความไว้วางใจจากลูกค้ารายหนึ่งที่เป็นผู้นำด้านการจัดหาโซลูชั่นแบบครบวงจร โดยครอบคลุมหลากหลายกลุ่มอุตสาหกรรม เช่น งานโยธา อุตสาหกรรม บริการและการซ่อมบำรุง และอุตสาหกรรมทางทะเล  แพลตฟอร์มดังกล่าวช่วยให้ลูกค้าลดความยุ่งยากซับซ้อนและเพิ่มความรวดเร็วฉับไวในการตรวจจับและตอบสนองต่อภัยคุกคาม”

เพื่อสานต่อความมุ่งมั่นของเราในการนำเสนอโซลูชั่นที่ปลอดภัยและน่าเชื่อถือมากที่สุดให้แก่ลูกค้าและพาร์ทเนอร์ กลุ่มธุรกิจซีเคียวริตี้ของซิสโก้จึงได้เปิดตัวนวัตกรรมแพลตฟอร์มที่ครอบคลุมกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย เช่น:

  • Extended Detection and Response (XDR)
    • SecureX นำเสนอความสามารถด้าน XDR และความสามารถอื่นๆ โดยจัดหาเวิร์กโฟลว์ตัวอย่างที่จะช่วยให้รองรับกรณีการใช้งานทั่วไป รวมไปถึงแถบ Ribbon ของ SecureX บนหน้าจอ และฟีเจอร์การวิเคราะห์สำหรับกลั่นกรองข้อมูลเชิงลึกที่เหนือกว่า
  • Zero Trust สำหรับบุคลากร
    • Duo ซึ่งเป็นองค์ประกอบหลักของโซลูชั่น Zero Trust ของซิสโก้ สามารถตรวจสอบล็อกอินที่น่าสงสัยโดยอัตโนมัติ และแจ้งเตือนทีมงานฝ่ายรักษาความปลอดภัยโดยอาศัยการบูรณาการ API เข้ากับแพลตฟอร์มต่างๆ เช่น SecureX
  • Secure Access Services Edge (SASE)
      • สถาปัตยกรรม SASE ของซิสโก้เชื่อมต่อเครือข่ายและระบบไอทีของลูกค้าเข้ากับระบบรักษาความปลอดภัยบนคลาวด์ที่รองรับการทำงานแบบมัลติฟังก์ชั่น สามารถติดตั้งใช้งานและจัดการได้อย่างง่ายดาย  เราจัดหาการบูรณาการที่ไร้รอยต่อเข้ากับ Cisco SD-WAN เพื่อปกป้องสำนักงานสาขา และ Secure VPN (เดิมใช้ชื่อว่า AnyConnect) เพื่อคุ้มครองพนักงานที่ทำงานนอกสถานที่หรือทำงานจากที่บ้าน โดยไม่จำเป็นต้องติดตั้งเอเจนต์เพิ่มเติม  นอกจากนี้ยังผนวกรวมเข้ากับ SecureX เพื่อปรับปรุงขีดความสามารถในการตรวจสอบและเพิ่มความรวดเร็วในการตอบสนองต่อปัญหา
      • Cisco Umbrella คือบริการคลาวด์ซีเคียวริตี้แบบมัลติฟังก์ชั่นที่เป็นหัวใจสำคัญของโครงสร้างพื้นฐาน SASE ของซิสโก้ โดยล่าสุดครองตำแหน่งผู้นำอันดับหนึ่งในด้านการตรวจจับภัยคุกคาม ด้วยระดับเรตติ้งการตรวจจับ 96.39 จากผลการสำรวจของ AV-TEST

นอกจากนี้ เพื่อลดความยุ่งยากซับซ้อนของระบบรักษาความปลอดภัยให้กับลูกค้าและพาร์ทเนอร์ ซิสโก้ได้ลดจำนวนชื่อผลิตภัณฑ์ราว 50 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในรอบ 13 ปี ทั้งนี้เพื่อให้สอดคล้องกับกลยุทธ์แพลตฟอร์ม SecureX ของซิสโก้

ข้อมูลเพิ่มเติม: