Red Hat to Acquire Kubernetes-Native Security Leader StackRox

With StackRox, Red Hat strengthens customers’ ability to build, deploy And run applications more securely across the open hybrid cloud

Bangkok – February 1, 2021 – Red Hat, Inc., the world’s leading provider of open source solutions, today announced its intent to acquire StackRox, a leader and innovator in container and Kubernetes-native security. By bringing StackRox’s powerful Kubernetes-native security capabilities to Red Hat OpenShift, the industry’s leading enterprise Kubernetes platform, Red Hat will further its vision to deliver a single, holistic platform that enables users to build, deploy and securely run nearly any application across the entirety of the hybrid cloud.

Kubernetes, one of the fastest growing open source projects, is the foundation of cloud-native applications, which are core to the digital transformation that is occurring across industries. As container and Kubernetes adoption in production environments grows, challenges remain. According to Gartner, “Container usage for production deployments in enterprises is still constrained by concerns regarding security, monitoring, data management and networking.”[1]

To help mitigate these concerns, organizations need solutions that lay a secure foundation for modern workloads.

Container security is Linux security. Red Hat has long been a leader in security for enterprise open source solutions, beginning with Red Hat Enterprise Linux and continually evolving to set new standards to secure cloud-native environments. Building on this foundation, OpenShift takes a layered approach to securing containers, integrating security throughout the container lifecycle, from building, to deploying to running containers in mission critical environments.

With this acquisition, Red Hat will further expand its security leadership, adding StackRox’s complementary capabilities to strengthen integrated security across its open hybrid cloud portfolio with greater simplicity and consistency. With StackRox, Red Hat will focus on transforming how cloud-native workloads are secured by expanding and refining Kubernetes’ native controls, as well as shifting security left into the container build and CI/CD phase, to provide a cohesive solution for enhanced security up and down the entire IT stack and throughout the lifecycle.

Founded in 2014, StackRox was created with a goal of reinventing enterprise security and has evolved over the past two years to focus on Kubernetes security. Unlike first generation container security platforms, which were often container-centric offerings, StackRox differentiates with a Kubernetes-native security platform. With this, organizations can more easily control and enforce policies, using the same declarative approach as Kubernetes to scale their applications while still maintaining the necessary security.

The StackRox software provides visibility across all Kubernetes clusters, by directly deploying components for enforcement and deep data collection into the Kubernetes cluster infrastructure, reducing the time and effort needed to implement security, and streamlining security analysis, investigation and remediation. The StackRox policy engine includes hundreds of built-in controls to enforce security best practices, industry standards such as CIS Benchmarks and NIST, and configuration management of both containers and Kubernetes, and runtime security.

In addition to Red Hat OpenShift, StackRox will continue to support multiple Kubernetes platforms, including Amazon Elastic Kubernetes Service (EKS), Microsoft Azure Kubernetes Service (AKS), and Google Kubernetes Engine (GKE).

StackRox also helps to simplify DevSecOps and enable cloud-native environments to be more intrinsically secure, by integrating directly into application pipelines and customers’ existing registry, image scanning and CI/CD tools. In October 2020, StackRox launched KubeLinter, an open source project that analyzes Kubernetes YAML files and Helm charts for correct configurations, with a focus on enabling production readiness and security earlier in the development process.

Consistent with Red Hat’s open source heritage, Red Hat plans to open source StackRox’s technology post acquisition. Red Hat will continue to support the KubeLinter community as well as new communities as Red Hat works to open source StackRox’s offerings.

The transaction is expected to close in the first quarter of 2021, subject to customary closing conditions.

Supporting Quotes
Paul Cormier, president and CEO, Red Hat
“Securing Kubernetes workloads and infrastructure cannot be done in a piecemeal manner; security must be an integrated part of every deployment, not an afterthought. Red Hat adds StackRox’s Kubernetes-native capabilities to OpenShift’s layered security approach, furthering our mission to bring product-ready open innovation to every organization across the open hybrid cloud across IT footprints.”

Kamal Shah, CEO, StackRox
“We’re thrilled to join forces with Red Hat, coupling the industry’s first Kubernetes-native security platform with the leading Kubernetes platform for hybrid cloud, multicloud, and edge deployments. This is a tremendous validation of our innovative approach to container and Kubernetes security. Red Hat is an ideal partner to accelerate our vision of enabling organizations to securely build, deploy and run their cloud-native applications anywhere.”

[1] Gartner, Best Practices for Running Containers and Kubernetes in Production, 4 August 2020

Red Hat ใช้ StackRox เสริมจุดแข็งช่วยให้ลูกค้าสร้าง และใช้งานแอปพลิเคชั่นได้อย่างปลอดภัยยิ่งขึ้นบนโอเพ่นไฮบริดคลาวด์

กรุงเทพฯ – 1 กุมภาพันธ์ 2564 – เร้ดแฮท อิงค์ ผู้นำระดับโลกด้านโอเพ่นซอร์สโซลูชั่น ประกาศซื้อกิจการของ StackRox บริษัทผู้นำและผู้รังสรรค์นวัตกรรมคอนเทนเนอร์ และการรักษาความปลอดภัยสำหรับแพลตฟอร์ม Kubernetes-native โดยการนำศักยภาพอันทรงพลังของ StackRox บนแพลตฟอร์มการรักษาความปลอดภัยแบบ Kubernetes-native ให้สามารถใช้งานร่วมกับ Red Hat OpenShift ซึ่งเป็นแพลตฟอร์ม Kubernetes ชั้นนำระดับองค์กรได้ ทั้งนี้ เร้ดแฮทจะยังคงมุ่งมั่นนำเสนอแพลตฟอร์มหนึ่งเดียว เพื่อช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถสร้าง นำไปใช้งาน และใช้งานแอปพลิเคชั่นเกือบทุกประเภทได้อย่างปลอดภัยบนไฮบริดคลาวด์ทั้งระบบ

Kubernetes หนึ่งในโปรเจ็คโอเพ่นซอร์สที่เติบโตเร็วที่สุด ที่เป็นรากฐานของแอปพลิเคชั่นแบบคลาวด์เนทีฟ ซึ่งเป็นหัวใจหลักของการปรับเปลี่ยนสู่ระบบดิจิทัลที่เกิดขึ้นกับทุกอุตสาหกรรม ถึงแม้จะมีการนำคอนเทนเนอร์และ Kubernetes มาใช้ในการกระบวนการผลิตเพิ่มขึ้น แต่ความท้าทายต่าง ๆ ก็ยังคงมีอยู่ จากรายงานของ Gartner ระบุว่า “การใช้คอนเทนเนอร์สำหรับการผลิตในองค์กรยังมีข้อจำกัดด้วยข้อกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัย การตรวจสอบ การบริหารจัดการข้อมูล และระบบเน็ตเวิร์ก”[1]

เพื่อช่วยบรรเทาความกังวลเหล่านี้ องค์กรต่าง ๆ จึงจำเป็นต้องใช้โซลูชั่นที่วางรากฐานอันปลอดภัยสำหรับรองรับเวิร์กโหลดสมัยใหม่

ความปลอดภัยของคอนเทนเนอร์คือความปลอดภัยของ Linux สำหรับเร้ดแฮทที่เป็นผู้นำด้านการรักษาความปลอดภัยของโซลูชั่นโอเพ่นซอร์สระดับองค์กรมาอย่างยาวนาน เริ่มต้นจาก Red Hat Enterprise Linux และการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อกำหนดมาตรฐานใหม่เพื่อทำให้สภาพแวดล้อมแบบคลาวด์เนทีฟปลอดภัย ด้วยพื้นฐานดังกล่าวข้างต้น OpenShift จึงใช้วิธีการแบบ layered approach มาใช้กับระบบรักษาความปลอดภัยของคอนเทนเนอร์ ที่เริ่มต้นตั้งแต่การสร้าง การนำไปใช้งาน และการใช้งานคอนเทนเนอร์ในแอปพลิเคชั่นทางธุรกิจที่มีความสำคัญมาก

เร้ดแฮทซื้อ StackRox ในครั้งนี้จะขยายความเป็นผู้นำด้านความปลอดภัยให้มากยิ่งขึ้นด้วยการเพิ่ม ความสามารถที่เสริมเข้ามาของ StackRox ทำให้การรักษาความปลอดภัยแบบบูรณาการทั่วทั้งระบบโอเพ่นไฮบริดคลาวด์มีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น พร้อมความเรียบง่ายและความเสถียรที่ดียิ่งขึ้น StackRox จะช่วยให้เร้ดแฮทมุ่งเน้นไปที่การปรับเปลี่ยนวิธีรักษาความปลอดภัยของเวิร์กโหลดแบบคลาวด์เนทีฟ โดยขยายและปรับแต่งการควบคุมของ Kubernetes ตลอดจนโยกย้ายการรักษาความปลอดภัยที่เหลืออยู่ ไปไว้ในขั้นตอนการทำ CI/CD และการสร้างคอนเทนเนอร์ มอบโซลูชั่นที่ทำงานสอดประสานกันเพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับระบบไอทีทั้งหมดครบทั้งวงจรการทำงาน

StackRox ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2557 โดยมีเป้าหมายเพื่อนำเสนอการรักษาความปลอดภัยระดับองค์กร และได้มีการพัฒนาตลอดสองปีที่ผ่านมา โดยมุ่งเน้นไปที่การรักษาความปลอดภัยของ Kubernetes StackRox สร้างความแตกต่างด้วยการเป็นแพลตฟอร์มรักษาความปลอดภัยแบบ Kubernetes-native ซึ่งต่างจากแพลตฟอร์มรักษาความปลอดภัยแบบคอนเทนเนอร์รุ่นแรกที่มักจะใช้คอนเทนเนอร์เป็นศูนย์กลาง ด้วยเหตุนี้จึงทำให้องค์กรสามารถควบคุมและบังคับใช้นโยบายต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น โดยใช้วิธีการแบบเดียวกันกับ Kubernetes ในการปรับขนาดแอปพลิเคชั่นโดยยังคงการรักษาความปลอดภัยที่จำเป็นไว้ได้ในเวลาเดียวกัน

ซอฟต์แวร์ของ StackRox ทำให้สามารถมองเห็น Kubernetes clusters ได้ทั้งหมด โดยปรับใช้ส่วนเสริมต่าง ๆ ได้โดยตรงเพื่อการบังคับใช้ และการรวบรวมข้อมูลเชิงลึกภายในโครงสร้างพื้นฐานของ Kubernetes cluster ช่วยลดเวลาและความพยายามที่จำเป็นต้องใช้ในการรักษาความปลอดภัย และปรับปรุงการวิเคราะห์ความปลอดภัย รวมถึงการตรวจสอบและการแก้ไขระบบที่ใช้จัดการนโยบายของ StackRox ประกอบด้วยตัวควบคุมที่ติดตั้งไว้ภายในหลายร้อยรายการ เพื่อบังคับใช้ให้เกิดแนวปฏิบัติด้านความปลอดภัยที่ดีที่สุด และเป็นไปตามมาตรฐานอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น CIS Benchmarks (Center for Internet Security) และ NIST (National Institute of Standards and Technology) และการจัดการการกำหนดค่าทั้งคอนเทนเนอร์กับ Kubernetes และการรักษาความปลอดภัยของคอนเทนเนอร์แบบรันไทม์

นอกจากจะรองรับ Red Hat OpenShift แล้ว StackRox ยังรองรับแพลตฟอร์ม Kubernetes อีกหลากหลาย รวมถึง Amazon Elastic Kubernetes Service (EKS), Microsoft Azure Kubernetes Service (AKS) และ Google Kubernetes Engine (GKE)

นอกจากนี้ StackRox ยังช่วยลดความซับซ้อนของ DevSecOps และช่วยให้สภาพแวดล้อมคลาวด์เนทีฟมีความปลอดภัยมากขึ้น ด้วยการผนวกรวมโดยตรงเข้ากับการส่งแอปพลิเคชั่น และฐานข้อมูลกลางที่มีอยู่ของลูกค้า และการสแกนภาพและเครื่องมือ CI/CD เมื่อเดือนตุลาคม 2563 StackRox เปิดตัว KubeLinter ซึ่งเป็นโปรเจ็คโอเพ่นซอร์สที่ใช้วิเคราะห์ไฟล์ Kubernetes YAML และ Helm charts เพื่อการกำหนดค่าที่ถูกต้อง โดยมุ่งเน้นที่ความพร้อมในการผลิต และตรวจสอบความปลอดภัยก่อนหน้าขั้นตอนของการพัฒนา

เพื่อให้สอดคล้องกับธรรมเนียมปฏิบัติแบบโอเพ่นซอร์สของเร้ดแฮท เร้ดแฮทจึงวางแผนที่จะเปิดเผย source code ของเทคโนโลยีของ StackRox หลังจากเสร็จสิ้นกระบวนการซื้อกิจการแล้ว โดยเร้ดแฮทจะยังคงให้การสนับสนุนชุมชน KubeLinter รวมทั้งชุมชนใหม่อื่น ๆ ต่อไป ทั้งนี้เนื่องจากเร้ดแฮททำงานเพื่อมอบ StackRox แบบโอเพ่นซอร์ส (ให้กับผู้ใช้งาน)

การซื้อกิจการคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในไตรมาสแรกของปี 2564 ภายใต้เงื่อนไขการปิดบัญชีตามเงื่อนไขที่กำหนด

คำกล่าวสนับสนุน
นายพอล คอร์เมียร์ ประธานและหัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารของเร้ดแฮท
“การรักษาความปลอดภัยเวิร์กโหลดและโครงสร้างพื้นฐานของ Kubernetes ไม่สามารถทำได้แบบทีละส่วน ความปลอดภัยจะต้องเป็นส่วนหนึ่งที่ผนวกรวมอยู่ในการปรับใช้ทุกครั้ง ไม่ใช่มาเพิ่มเติมในภายหลัง เร้ดแฮทเพิ่มความสามารถแบบ Kubernetes-native ของ StackRox ให้กับโครงสร้างความปลอดภัยแบบตามลำดับขั้นของ OpenShift ซึ่งจะช่วยส่งเสริมภารกิจของเรา ในการนำเสนอนวัตกรรมแบบเปิดที่พร้อมใช้งานให้กับทุกองค์กรในระบบไฮบริดคลาวด์ตามการใช้งานด้านไอที”

คามาล ชาห์ หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารของ StackRox
“เรายินดีมากที่ได้ร่วมงานกับเร้ดแฮท เป็นการจับคู่กันระหว่างแพลตฟอร์มรักษาความปลอดภัยแบบ Kubernetes-native รายแรกของอุตสาหกรรม กับแพลตฟอร์ม Kubernetes ชั้นนำสำหรับไฮบริดคลาวด์ มัลติคลาวด์และการใช้งาน edge การร่วมมือกันในครั้งนี้เป็นการรับรองที่ยิ่งใหญ่ถึงแนวทางใหม่ของเรา ในการรักษาความปลอดภัยของคอนเทนเนอร์และ Kubernetes เร้ดแฮทเป็นพันธมิตรที่เยี่ยมยอด ช่วยเร่งวิสัยทัศน์ของเราในการช่วยให้องค์กรต่าง ๆ สามารถสร้างและใช้งานคลาวด์เนทีฟแอปพลิเคชั่นได้อย่างปลอดภัยในทุกสถานที่”

[1] Gartner, Best Practices for Running Containers and Kubernetes in Production, 4 August 2020