Infor

Why Asian food producers are turning to the cloud

เหตุผลที่ผู้ผลิตอาหารในเอเชียหันมาใช้ระบบคลาวด์


Article by Fabio Tiviti, Vice President, ASEAN, Infor

Consumers today are more demanding than ever, accustomed to personalised, digital conveniences enabled by modern smartphones and constant connectivity. At the same time, global food compliance standards are steadily increasing, in line with heightened quality demands and a growing general awareness about the importance of food safety.

Rising expectations
While sustainability and food safety concerns are easy to understand, aspects of rising customer expectations can be traced back to emerging business models, such as direct food delivery and “cloud” kitchens that prepare food for multiple outlets. Given how these services can deliver your favourite dishes to your doorstep in about the time it takes to drive to a restaurant, it’s easy to see how their popularity is skyrocketing in Asia—and reshaping customer expectations.

Whether delivering cooked or personalised selections of ready-to-cook items, innovations like direct food delivery raise new challenges for food producers. Foremost is the question of traceability. Where does the blame fall should food be contaminated, or when allergen-free meals or produce are inadvertently stored with other types of food during delivery? Without a comprehensive tracking system, food producers cannot be certain that problems occurred outside of their remit.

As the Asian market matures, customers are also more concerned with sustainability. The extensive use of plastic packaging and inefficient food supply chains are just two examples of practices that don’t fit well in an environmentally conscious world. And any conversation around sustainability cannot preclude the water used in food production, given the finite nature of potable water.

A better approach
With the judicious application of technology, food producers can manage their disparate challenges—meeting evolving customer requirements, tracking a myriad of ingredients used in food production to establish traceability, or increasing production efficiency to lower an organisation’s carbon footprint and minimise the use of water.

Yet, developing a new system using a traditional IT approach requires a massive up-front investment, which can also be prone to project overruns and be incredibly complex to maintain beyond a single location. On the other hand, a cloud-based approach can be deployed far quicker and cheaper, while delivering an always-accessible enterprise resource planning (ERP) system that is highly extensible and can be continuously improved.

In a world of razor-thin margins and relentless pressure to move quickly, food producers have scant room for mistakes or experimentation. Rather than building from scratch, they need something that is proven to work and can be deployed straight away. This makes a cloud ERP system ideal for accessibility, speed-to-market, and reliability.

Moreover, data stored within a single cloud repository can serve as a single version of the truth across the entire organisation, nullifying potential finger pointing between departments before they begin. Having partners and suppliers on the same page, offers the added benefit of helping to ease supply chain enhancements and new innovations.

Why the cloud works
Once in the cloud, the possibilities expand dramatically. Previously disparate processes and independent silos can finally be integrated as part of a coherent whole, offering deep insights into interrelated business processes that were not previously evident.

New technologies can also be implemented more easily in the cloud. For instance, a food producer in Asia turned to the Internet of Things (IoT) to equip its herd of cows with wearable sensors. With data from its herds available in the cloud, the producer was able to access a host of invaluable data necessary to raise healthier, faster-growing animals.

Infor® has invested billions of dollars over the last five years in our CloudSuite™ family of solutions. With the tools to accelerate food and beverage manufacturers’ supply chains in Asia and around the world, Infor CloudSuite Food & Beverage can help spur innovation and bring new products to market faster.


บทความโดย นายฟาบิโอ ทิวิติ รองประธาน บริษัท อินฟอร์ อาเชียน

ความต้องการของผู้บริโภคปัจจุบันเพิ่มขึ้นมากกว่าในอดีต  ผลพวงมาจากความคุ้นเคยที่ได้รับจากความสะดวกสบายแบบเฉพาะเจาะจงส่วนบุคคลผ่านสมาร์ทโฟนที่ทันสมัยที่มีการเชื่อมต่อตลอดเวลา รวมถึงการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของมาตรฐานการปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านอาหารทั่วโลก  การรับรู้เกี่ยวกับความสำคัญด้านความปลอดภัยอาหารและคุณภาพของผลิตภัณฑ์

ความคาดหวังที่เพิ่มขึ้น
แม้ว่าความกังวลด้านความยั่งยืน และความปลอดภัยของอาหารเป็นเรื่องที่อาจทำความเข้าใจได้ง่าย แต่ความคาดหวังต่าง ๆ ของลูกค้าที่เพิ่มขึั้น เป็นตัวบ่งชี้ให้เราทราบถึงที่มาของรูปแบบธุรกิจที่เกิดใหม่ เช่น การจัดส่งอาหารถึงผู้บริโภคโดยตรง และ “คลาวด์” คิทเช่น (Cloud Kitchen) พื้นที่ครัวกลางสำหรับให้ร้านค้าหลายแห่งเข้ามาใช้งานร่วมกัน  ซึ่งบริการเหล่านี้จะช่วยให้อาหารจานโปรดไปถึงที่พักของคุณได้ในเวลาพอๆ กันกับการที่คุณต้องขับรถไปร้านอาหารด้วยตัวเอง จึงเป็นเรื่องง่ายที่จะพบว่าความนิยมของลูกค้าในทวีปเอเชียเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก และการปร้บเปลี่ยนความคาดหวังของลูกค้านั้นเป็นไปได้อย่างไร

ข้อมูลของศูนย์วิจัยกสิกรไทยเปิดเผยว่า แม้ว่าโควิด-19 จะทำให้เศรษฐกิจโลกชะลอตัวลง แต่ก็ทำให้สภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจ และวิธีการดำเนินธุรกิจเปลี่ยนไปเช่นกัน โดยบริษัทอาหารหลายแห่งได้พบกับไลฟ์สไตล์ และความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปจากเดิม  และได้มีการปรับตัวเปิดรับโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ โดยอาศัยโมเดลธุรกิจคลาวด์คิทเช่น ซึ่งได้กระตุ้นให้ปริมาณการจัดส่งอาหารเพิ่มขึ้นถึง 1.5 เท่าในช่วงครึ่งแรกของปี 2563 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว จึงเกิดการคาดการณ์ว่าคลาวด์คิทเช่นจะเพิ่มขึ้นในกรุงเทพฯและปริมณฑลอย่างน้อย 50 แห่งภายในสิ้นปี 2565

ไม่ว่าจะเป็นอาหารที่ปรุงสุกแล้ว หรืออาหารพร้อมปรุงตามการเลือกสรรของแต่ละบุคคล นวัตกรรมต่าง ๆ เช่น การจัดส่งอาหารตรงถึงผู้บริโภค ก็ได้เข้ามาเพิ่มความท้าทายใหม่ ๆ ให้กับผู้ผลิตอาหาร คำถามที่มีการถามมากที่สุดคือการตรวจสอบย้อนกลับ เพื่อให้มั่นใจว่าเมื่อเกิดความท้าทายต่างๆ ขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเมื่ออาหารเกิดการปนเปื้อน หรือผลิตผลที่ปราศจากสารก่อภูมิแพ้ถูกเก็บรวมไว้กับอาหารชนิดอื่น ๆ โดยไม่ตั้งใจระหว่างการจัดส่ง ใครควรจะต้องรับผิดชอบ ซึ่งผู้ผลิตอาหารไม่อาจมั่นใจได้เลยว่า ปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นนั้นจะอยู่นอกเหนือความรับผิดชอบของตน หากปราศจากระบบติดตามที่ครอบคลุมแบบครบวงจร

การเติบโตของตลาดในเอเชียทำให้ลูกค้าให้ความสำคัญกับเรื่องความยั่งยืนมากขึ้น การใช้บรรจุภัณฑ์พลาสติกอย่างแพร่หลาย และซัพพลายเชนที่ขาดประสิทธิภาพ เป็นเพียงสองตัวอย่างของการปฏิบัติที่ไม่เหมาะสมกับสถานการณ์ของโลกที่ให้ความใส่ใจในเรื่องสิ่งแวดล้อม  นอกจากนี้ปริมาณน้ำเพื่อการบริโภคที่มีจำนวนจำกัด ยังทำให้การถกเถียงด้านความยั่งยืนไม่สามารถนำมาใช้ป้องกันปัญหาการใช้น้ำในกระบวนการผลิตอาหารได้

แนวทางที่ดีกว่า
หากผู้ผลิตอาหารรู้จักเลือกใช้เทคโนโลยีอย่างชาญฉลาด ก็จะสามารถจัดการกับความท้าทายที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงนี้ได้ ไม่ว่าจะเป็นการตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนไป, การค้นหาและติดตามส่วนผสมในการผลิตอาหารจำนวนมหาศาลเพื่อทำให้สามารถตรวจสอบย้อนกลับ, หรือการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต เพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ขององค์กร และจำกัดการใช้น้ำให้เหลือน้อยที่สุด เป็นต้น

กระนั้นก็ตาม การพัฒนาระบบใหม่โดยใช้ไอทีแบบดั้งเดิม ต้องใช้เงินลงทุนล่วงหน้าจำนวนมาก อาจส่งผลกระทบต่อโครงการที่มีอยู่ และเกิดความซับซ้อนที่ไม่ได้คาดคิดมาก่อนในด้านการดูแลรักษาหากมีสถานที่ทำงานมากกว่าหนึ่งแห่ง  ในทางกลับกัน การใช้ระบบคลาวด์จะสามารถปรับใช้ได้รวดเร็วและมีราคาถูกกว่ามาก อีกทั้งยังมอบระบบการบริหารทรัพยากรขององค์กร (Enterprise Resource Planning – ERP) ที่เข้าถึงได้ตลอดเวลา มีความยืดหยุ่นในการปรับขยายมาก และมีการปรับปรุงอย่างต่อเนื่องไปด้วยในขณะเดียวกัน

ในโลกที่การผิดพลาดต้องน้อยที่สุด และแรงกดดันต่อเนื่องเพื่อให้ก้าวไปข้างหน้าได้อย่างรวดเร็ว ทำให้ผู้ผลิตอาหารไม่สามารถทำให้เกิดข้อผิดพลาดหรือทำการทดลองใด ๆ ได้อีกต่อไป พวกเขาจึงต้องการสิ่งที่พิสูจน์แล้วว่าสามารถใช้งานได้จริง และนำไปใช้งานได้ทันทีแทนที่จะเริ่มต้นจากศูนย์  ระบบคลาวด์ ERP จึงเหมาะสมอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของความสามารถในการเข้าถึง, การส่งผลิตภัณฑ์ออกสู่ตลาด รวมถึงความน่าเชื่อถือขององค์กร

ยิ่งไปกว่านั้น ข้อมูลที่จัดเก็บไว้บนคลาวด์หนึ่งเดียว จะสามารถใช้เป็นแหล่งข้อมูลยืนยันความถูกต้องสำหรับการทำงานขององค์กรทั้งหมด ช่วยลดความผิดพลาดใด ๆ ระหว่างแผนกก่อนที่จะเกิดขึ้นได้  อีกทั้งการมีคู่ค้าและซัพพลายเออร์อยู่บนหน้าจอเดียวกัน ยังช่วยให้การขยายซัพพลายเชนและนวัตกรรมเป็นไปได้ง่ายดายขึ้นอีกด้วย

ทำไมระบบ ERP จึงเหมาะที่จะใช้บนคลาวด์
เมื่อใช้ระบบ ERP บนคลาวด์ ความเป็นไปได้ในทุกด้านจะเพิ่มขึ้นอย่างมากมายมหาศาล กระบวนการที่ต่างกันและไซโลต่าง ๆ ที่เคยมีก่อนหน้านี้ จะสามารถรวมเข้าด้วยกันกลายเป็นส่วนที่สอดคล้องกันทั้งหมด ทำให้สามารถนำเสนอข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับกระบวนการทางธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกันอย่างที่ไม่เคยปรากฎมาก่อน

นอกจากนี้ เทคโนโลยีใหม่ ๆ ยังสามารถนำไปใช้งานในระบบคลาวด์ได้ง่ายขึ้น เช่น ผู้ผลิตอาหารในทวีปเอเชียที่หันมาใช้อินเทอร์เน็ตออฟธิงค์ส (Internet of Things – IoTs) ด้วยการติดเซ็นเซอร์ไว้กับฝูงวัว ทำให้ข้อมูลจากฝูงปศุสัตว์ที่อยู่ในระบบคลาวด์ ช่วยให้ผู้ผลิตสามารถเข้าถึงข้อมูลอันล้ำค่าที่จำเป็นต่อการเลี้ยงสัตว์ให้มีสุขภาพดี พร้อมอัตราการเจริญเติบโตที่รวดเร็วขึ้น

อินฟอร์®ได้ลงทุนหลายพันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในช่วงห้าปีที่ผ่านมาในโซลูชั่นตระกูล CloudSuitTM ของบริษัทฯ ด้วยเครื่องมือที่เร่งการปรับเปลี่ยนสู่การเป็นดิจิทัลซัพพลายเชนของผู้ผลิตอาหารและเครื่องดื่มในทวีปเอเชียและทั่วโลก Infor CloudSuite Food & Beverage จะช่วยกระตุ้นการคิดค้นนวัตกรรมและการนำผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ออกสู่ตลาดได้เร็วขึ้น