Gartner

Gartner Forecasts Worldwide 5G Network Infrastructure Revenue to Grow 39% in 2021

การ์ทเนอร์ชี้รายได้จากบริการโครงข่าย 5G ทั่วโลกจะโต 39% ในปีนี้

By End of 2024, 60% of CSPs Will Commercialize 5G Service Covering Tier-1 Cities

Worldwide 5G network infrastructure revenue is on pace to grow 39% to total $19.1 billion in 2021, up from $13.7 billion in 2020, according to the latest forecast by Gartner, Inc. 

Communications service providers (CSPs) in mature markets accelerated 5G development in 2020 and 2021 with 5G representing 39% of total wireless infrastructure revenue this year. “The COVID-19 pandemic spiked demand for optimized and ultrafast broadband connectivity to support work-from-home and bandwidth-hungry applications, such as streaming video, online gaming and social media applications,” said Michael Porowski, senior principal research analyst at Gartner.

5G is the fastest growing segment in the wireless network infrastructure market (see Table 1). Of the segments that comprise wireless infrastructure in this forecast, the only significant opportunity for investment growth is in 5G. Investment in legacy wireless generations is rapidly deteriorating across all regions and spending on
non-5G small cells is poised to decline as CSPs move to 5G small cells.

Table 1: Wireless Network Infrastructure Revenue Forecast, Worldwide (Millions of U.S. Dollars)


Source: Gartner (August 2021)

Regionally, CSPs in North America are set to grow 5G revenue from $2.9 billion in 2020 to $4.3 billion in 2021, due, in part, to increased adoption of dynamic spectrum sharing and millimeter wave base stations. In Western Europe, CSPs will prioritize on licensing spectrum, modernizing mobile core infrastructure and navigating regulatory processes with 5G revenue expected to increase from $794 million in 2020 to $1.6 billion in 2021. Greater China is expected to maintain the No.1 global position in global 5G revenue reaching $9.1 billion in 2021, up from $7.4 billion
in 2020.

5G Coverage in Tier-1 Cities Will Reach 60% in 2024

While 10% of CSPs in 2020 provided commercializable 5G services, which could achieve multiregional availability, Gartner predicts that this number will increase to 60% by 2024, which is a similar rate of adoption for LTE and 4G in the past.

“Business and customer demand is an influencing factor in this growth. As consumers return to the office, they will continue to upgrade or switch to gigabit fiber to the home (FTTH) service as connectivity has become an essential remote work service,” said Porowski. “Users will also increasingly scrutinize CSPs for both office and remote work needs.”

This rapid shift in customer behavior is driving growth in the global passive optical network (PON) market as a preferred technology. The 10-Gigabit-capable
symmetric-PON (XGS-PON) is not a new technology and with the price difference with other technologies narrowing, CSPs are willing to invest in XGS-PON to differentiate themselves in customer experience and network quality.
Gartner estimates that by 2025, 60% of Tier-1 CSPs will adopt XGS-PON technology at large-scale to deliver ultrafast broadband services to residential and business users, up from less than 30% in 2020.

Gartner clients can learn more in the reports “Forecast Analysis: Communications Service Provider Operational Technology, Worldwide” and “Forecast: Communications Service Provider Operational Technology, Worldwide, 2019-2025, 2Q21 Update.”

และสิ้นปี 2567 ผู้ให้บริการด้านสื่อสารถึง 60% จะเปิดบริการ 5G เชิงพาณิชย์ครอบคลุมพื้นที่เมืองหลักสำคัญ

การ์ทเนอร์ อิงค์ คาดการณ์รายได้จากการเปิดให้บริการโครงสร้างพื้นฐานเครือข่าย 5G ทั่วโลก
จะเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วที่ 39% คิดเป็นมูลค่าประมาณ 19.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปีนี้ เพิ่มจาก 13.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2563

มร.ไมเคิล โพโรสกี้ นักวิเคราะห์อาวุโสของการ์ทเนอร์ กล่าวว่า “ผู้ให้บริการด้านการสื่อสาร (CSPs)
ในตลาดใหญ่ ๆ ที่เร่งเปิดให้บริการ 5G ในปีก่อนและปีนี้จะมีสัดส่วนรายได้จาก 5G อยู่ที่ 39% ของ
รายได้จากเครือข่ายไร้สายทั้งหมดที่เปิดให้บริการในปีนี้ ซึ่งการแพร่ระบาด COVID-19 กระตุ้นความต้องการในการเพิ่มประสิทธิภาพและการเชื่อมต่อสัญญาณอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ที่มีความเร็วสูงสำหรับใช้ทำงานจากที่บ้านและการใช้แอปพลิเคชั่นต่าง ๆ ที่กินแบนด์วิธสูง อาทิ การชมสตรีมวิดีโอ
เล่นเกมออนไลน์ และใช้แอปพลิเคชั่นโซเชียลมีเดีย”

เครือข่าย 5G เติบโตรวดเร็วที่สุดในกลุ่มตลาดโครงสร้างพื้นฐานเครือข่ายไร้สาย (ดูตามตารางที่ 1)
และเป็นโอกาสการลงทุนเดียวที่สร้างการเติบโตสำคัญแก่ผู้ให้บริการ เนื่องจากแนวโน้มการลงทุนใน
เครือข่ายไร้สายรุ่นก่อน ๆ กำลังลดลงรวดเร็วทุกภูมิภาครวมถึงการใช้จ่ายในเซลล์เครือข่ายขนาดเล็ก
ที่ไม่ใช่ 5G ตามที่ผู้ให้บริการสื่อสารหันไปใช้เซลล์เครือข่ายขนาดเล็กของ 5G แทนที่

ตารางที่ 1: คาดการณ์รายได้โครงสร้างพื้นฐานเครือข่ายไร้สายทั่วโลก (หน่วย: ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ)


ที่มา: การ์ทเนอร์ (เดือนสิงหาคม 2564)

ในระดับภูมิภาค ผู้ให้บริการด้านการสื่อสารในแถบอเมริกาเหนือตั้งเป้ามีรายได้เพิ่มจากบริการ 5G
จากเดิม 2.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปีก่อน เป็น 4.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปีนี้ ส่วนนึงจากการนำคลื่นความถี่แบบไดนามิกมาปรับใช้ร่วมกันและเพิ่มสถานีฐานรับ-ส่งสัญญาณคลื่นแบบ mmWave ขณะที่ผู้ให้บริการในยุโรปตะวันตกกลับให้ความสำคัญกับการออกใบอนุญาตคลื่นความถี่
การปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานหลักให้ทันสมัยเพื่อรองรับการใช้งานบนอุปกรณ์พกพาและปรับบริการ
ให้เข้ากับกระบวนการกำกับดูแล ซึ่งคาดว่าจะมีรายได้จาก 5G เพิ่มเป็น 1.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
ในปีนี้ จาก 794 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อปีที่แล้ว โดยประเทศจีนยังคงรักษาตำแหน่งผู้นำเบอร์ 1
ของโลก ด้วยรายได้จากเครือข่าย 5G สูงแตะ 9.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปีนี้ เพิ่มจาก 7.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากปี 2563

ในอีก 3 ปี สัญญาญ 5G จะครอบคลุมพื้นที่เมืองหลักทั่วโลกถึง 60%

จากปีก่อนที่มีเพียง 10% ของผู้ให้บริการสื่อสารที่เปิดบริการ 5G เชิงพาณิชย์ การ์ทเนอร์คาดว่าภายในปี 2567 ตัวเลขดังกล่าวจะเพิ่มขึ้นเป็น 60% ใกล้เคียงกับอัตราการปรับใช้เครือข่าย LTE และ 4G
ในอดีต เนื่องจากความสำเร็จในการเปิดให้บริการในหลากหลายภูมิภาคพร้อม ๆ กัน

“ความต้องการของธุรกิจและกลุ่มลูกค้าเป็นปัจจัยเร่งที่มีอิทธิพลต่อการเติบโตดังกล่าว เมื่อผู้บริโภคกลับมาทำงานที่ออฟฟิศ พวกเขาจะอัปเกรดหรือเปลี่ยนไปใช้อินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ความเร็วสูงภายในบ้านผ่านสายเคเบิ้ลใยแก้วนำแสง (FTTH) เนื่องจากการเชื่อมต่อได้กลายเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับบริการระยะไกล โดยผู้ใช้จะคัดสรรผู้ให้บริการเครือข่ายอย่างละเอียดเมื่อต้องการใช้งานอินเทอร์เน็ตทั้งที่ออฟฟิศและจากบ้านเพิ่มขึ้น” มร.โพโรสกี้ กล่าวเพิ่มเติม

พฤติกรรมลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วช่วยกระตุ้นการเติบโตเทคโนโลยีโครงข่ายเชิงแสงแบบ
พาสซีฟ (Passive Optical Network หรือ PON) ในตลาดทั่วโลก ให้กลายเป็นเทคโนโลยีที่ใคร ๆ ก็ต้องการ โดยที่เทคโนโลยี 10 Gigabit-capable symmetric-PON (XGS-PON) ไม่ใช่เทคโนโลยีใหม่และด้วยราคาที่ต่างกันกับเทคโนโลยีอื่น ๆ ผู้ให้บริการยินดีลงทุนในเทคโนโลยี XGS-PON เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานที่แตกต่างให้กับลูกค้าและเสริมคุณภาพให้กับเครือข่าย การ์ทเนอร์คาดว่าภายในปี 2568 จะมีผู้ให้บริการสื่อสารชั้นนำประมาณ 60% นำเทคโนโลยี XGS-PON มาปรับใช้ในวงกว้างเพื่อขยายบริการบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงเป็นพิเศษแก่ผู้ใช้ตามบ้านและเชิงพาณิชย์ เพิ่มขึ้นจากเดิมที่น้อยกว่า 30% ในปี 2563

ลูกค้าการ์ทเนอร์สามารถคลิกอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่รายงาน  “Forecast Analysis: Communications Service Provider Operational Technology, Worldwide” และ “Forecast: Communications Service Provider Operational Technology, Worldwide, 2019-2025, 2Q21 Update.”