Adobe

A guide for travel, hospitality & dining industries to innovate and recover

จะเกิดวิกฤตกี่ครั้งก็รอด - อะโดบีแนะแนวทางฟื้นฟูอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ร้านอาหาร และการบริการ ให้กลับมาเฟื่องฟูอีกครั้งเมื่อการล็อคดาวน์เริ่มคลายตัว

Covid-19 has changed how travel, hospitality, and dining brands operate. Resilience, above all else, is proving to be key for these companies right now. There are many challenges the industry is facing in connecting with customers to improve business during the disruption. Even with these struggles, there are ways to earn trust and loyalty through exceptional customer experiences. Here are some tips on how to transform offline processes to digital, better understand your customers, and make communications proactive. 

The focus for travel companies 

Closed borders and mandated safety precautions has transformed everyone’s daily life and temporarily shuttered an industry designed to create memorable experiences. Tourism is the third biggest contributor in Malaysia in 2018, contributing 5.9 percent to the total GDP, according to Statista.  

A crucial element for travel companies now is supporting customers worldwide who must rethink and redo their travel plans. Digital has been the fastest way during this emergency.

Consumers are proactively reaching out to call centres and across a variety of digital channels seeking support on how to manage trips. One way is through artificial intelligence. AI can be a critical path to create the right experiences for customers across their journey for assistance.  

The sea of change in hospitality and dining
Restaurants are expected to pivot from a “dining out” business model to a focus on online orders by tweaking and streamlining their menus to offer food that travels well. 

Almost all dining outlets have had to start offering more delivery and self-pick up options. Other parts of the ecosystem like third-party delivery systems (think: GrabFood and Foodpanda) are also supporting restaurants by staying open and providing offers to customers.  

Additionally, as restaurants go online, there becomes a need for digital solutions to connect with customers, because diners ordering more food online. Now, restaurant owners and “front of house” staff should be considering how they orchestrate this new customer journey.  

Recovery is top on everyone’s mind
Whether a small travel company or big airline, restaurant chain or food delivery service, travel, hospitality, and dining companies need to build business resilience. Here are three strategies to guide the way.  

1. Know your customer
Understanding your customer’s context is critical to serving them well in a crisis. Use your data (and AI) to detect anomalies in customer behaviour and signs of renewed interest that would reflect recovery. 

Some customers willing to travel sooner than others during the recovery period: 

  • Business travellers  
  • Travellers that had specific celebrations scheduled (weddings, reunions, etc.)  
  • Travellers that were slow to cancel in hopes that they could still travel Younger demos like Millennials/Gen Z who have shown a renewed interest in travel deals being offered 

Like travel, dining brands will have customers willing to eat out sooner and return to previous dining habits: 

  • Identify the people (through your data) who dined more frequently; put them at the top of your engagement list  
  • These same customers may have a higher likelihood to order delivery 

 2. Lean into digital self-service
For travel companies, customer behaviour rapidly changes from booking to high-volume cancellations, call centres are being overloaded with questions. Personalising the process can support a customer through the climate of change with care.  

Travel companies can ease call centre costs by: 

  • Build new resources for customers based on new FAQs and challenges arising 
  • Reducing unnecessary call centre questions  
  • Increasing the use of online and mobile sites and apps, and self-service for rebooking 
  • Identifying areas of friction on the website or other digital channels so self-service is easier 

 For hospitality and dining, digital self-service might be a new “muscle” to flex. To continue to drive revenue, restaurants are depending on third party delivery services while new procedures are being implemented for contactless drop-off. These changes require bridging the gap between physical and online strategies focusing offline to essential activities.  

How restaurants can manage brick & mortar to digital shifts: 

  • Inform customers you are open for business 
  • Provide details on how they can manage their contactless delivery to support social distancing
  • Ensure the digital journey is seamless with staff operations
  • Ease concerns about the safety of food preparation and food delivery

 For many food establishments, it may be time to consider an ecommerce solution.    

3.Proactive empathic communication
The best ways to support customers, build trust and gain loyalty is to become a trusted advisor. This means early and immediate communication on the issue at hand. For the industry, addressing areasi where customer service might be delayed with a note of thanks helps to resolve some of the friction that cannot be mitigated due to various challenges.  

By Julie Hoffmann, Head of Industry Strategy and Marketing – Travel at Adobe

เราเห็นความท้าทายมากมายที่อุตสาหกรรมกำลังเผชิญในการสื่อสารกับลูกค้าเพื่อปรับปรุงธุรกิจในภาวะชะงักงัน และเมื่อการล็อคดาวน์เริ่มคลายตัว มีวิธีที่แบรนด์จะได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าผ่านประสบการณ์ที่ดีจากการคิดนอกกรอบ และกระบวนการคิดอย่างสร้างสรรค์เพื่อช่วยให้ธุรกิจฟื้นตัว บทความนี้จะพูดถึงการปรับตัวของธุรกิจเพื่อให้แบรนด์เข้าถึงลูกค้า ทำความเข้าใจกับลูกค้าได้ดีขึ้น รวมถึงทำการสื่อสารเชิงรุกในภาวะที่การล็อคดาวน์เริ่มคลายตัว

ความสำคัญของธุรกิจท่องเที่ยว
ปฏิเสธไม่ได้ว่าอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเป็นอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดในสถานการณ์ COVID-19 การปิดพรมแดน หรือปิดประเทศ นอกจากจะเปลี่ยนวิถีชีวิตประจำวันของทุกคนแล้วยังเปลี่ยนการดำเนินธุรกิจที่สร้างประสบการณ์ใหม่แบบไม่มีวันลืม ข้อมูลจากสภาการเดินทางและการท่องเที่ยวโลก (Worldwide Travel & Tourism Council : WWTC) เผยว่าในปี 2561 อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและการบริการมีการเติบโตอยู่ที่ 3.9% สูงเป็นอันดับสองจากอุตสาหกรรมทั้งหมด คิดเป็นมูลค่า 8.8 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ มีตำแหน่งงานในภาคเศรษฐกิจโลกถึง 319 ล้านตำแหน่งงาน แต่ตอนนี้สายการบิน, โรงแรม, รถเช่า, ตัวแทนการท่องเที่ยว และเรือสำราญ ได้เปลี่ยนไปเน้นและให้ความสำคัญกับ “การจัดการความปลอดภัย และสุขภาพของนักท่องเที่ยว” เป็นอันดับแรก และถือว่าเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในเวลานี้

เราต้องให้ความสำคัญทั้งกับบริษัทที่ดำเนินธุรกิจท่องเที่ยว และลูกค้าที่มีอยู่ทั่วโลกซึ่งพวกเขากำลังวางแผนการท่องเที่ยวอีกครั้ง “เทคโนโลยีดิจิทัล” ดูจะเป็นวิธีที่เร็วที่สุดในการจัดการกรณีฉุกเฉินต่างๆ ขณะที่แบรนด์เองก็ต้องหาวิธีใหม่ๆ ในการจัดการการยกเลิกการเดินทาง พร้อมเสนอทางเลือกอื่นๆเพื่อให้ลูกค้าได้รู้สึกถึงความรับผิดชอบของแบรนด์ และไม่ได้รู้สึกว่าตนเองถูกทอดทิ้ง

โดยทั่วไปลูกค้าจะเริ่มต้นด้วยการโทรติดต่อ Call Center และใช้ช่องทางโซเชียลมีเดียที่หลากหลายของแบรนด์เพื่อหาวิธีการจัดการการเดินทางของพวกเขา ด้วยความเร่งด่วนของเคส ซึ่งบางเคสก็เป็นเคสที่ซับซ้อน ดังนั้นความต้องการที่จะติดต่อแบรนด์ทาง Call Center จึงสูงอยู่ตลอดเวลา การทำความเข้าใจกับปริบทของแต่ละเคสเป็นสิ่งที่ Call Center ต้องให้ความสำคัญ แล้ว Call Center จะมีวิธีรับมืออย่างไร? วิธีที่หนึ่งที่เริ่มใช้กันมากคือ รับมือผ่าน AI ซึ่งกลายเป็นเครื่องมือสำคัญในการรับมือกับลูกค้าที่ต้องการความช่วยเหลือ เช่น AI สามารถช่วยแบรนด์ค้นหาคำร้องจากลูกค้าจำนวนมากได้อย่างรวดเร็ว และจัดการ Travel Credit ได้ทันทีเมื่อมีการเปลี่ยนแปลง “แพลตฟอร์มดิจิทัล” ที่เหมาะสมในการจัดการประสบการณ์ของลูกค้าจะมี AI built-in และมี resources ที่ใช้ประโยชน์จาก AI ให้ได้มากที่สุด

ความเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว และร้านอาหาร
เพียงชั่วข้ามคืนร้านอาหารต้องเปลี่ยนรูปแบบการให้บริการเป็น Digital Self-Service จากรายงานผลกระทบทางเศรษฐกิจจาก COVID-19 จาก Yelp เผยว่า “บริการเดลิเวอรี่ได้รับความนิยมมากขึ้นถึง 300%

ช่วงล็อคดาวน์ร้านอาหารเปลี่ยนการให้บริการเป็นเดลิเวอรี่ 100% เช่นเดียวกับอีโคซิสเต็มอื่นๆ เช่น ระบบการจัดส่งของก็เปิดและสนับสนุนร้านอาหารด้วยการให้ส่วนลดค่าคอมมิชชั่น ให้ข้อเสนอต่างๆกับลูกค้า การเข้าถึงข้อมูลดิจิทัลทั้งหมดมีความจำเป็นอย่างมาก และได้เป็นแนวโน้มใหม่ของธุรกิจร้านอาหารในปัจจุบัน

เมื่อร้านอาหารส่วนใหญ่ก้าวสู่แพลตฟอร์มออนไลน์ ความต้องการโซลูชั่นที่เชื่อมต่อกับลูกค้าก็มีเพิ่มมากขึ้น เพราะผู้บริโภคส่วนใหญ่สั่งอาหารผ่านช่องทางออนไลน์ และต้องการ engage “ทุกขั้นตอน” ของการสั่งอาหารจากแพลตฟอร์มนั้น ปัจจุบันเจ้าของร้านอาหาร และพนักงานหน้าร้าน ควรพิจารณาว่าจะจัดการ Customer Journey นี้อย่างไรต่อไปในอนาคตให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด

“การฟื้นฟู” เป็นสิ่งที่ธุรกิจต้องทำ ณ ขณะนี้
ไม่ว่าจะเป็นบริษัทท่องเที่ยวขนาดเล็ก สายการบินขนาดใหญ่ ร้านอาหาร หรือการให้บริการเดลิเวอรี่ จำเป็นต้องมี “การปรับตัวทางธุรกิจ” (business resilience) อะโดบีขอแนะนำ 3 กลยุทธ์ในการฟื้นฟูอุตสาหกรรมท่องเที่ยว และร้านอาหารดังนี้:

1. รู้จักลูกค้าของคุณให้มากขึ้น
เข้าใจปริบทของลูกค้าเป็นสำคัญเพื่อการให้บริการที่ต่อเนื่องแม้จะเป็นเวลาวิกฤต หรือกำลังจะเริ่มพ้นจากช่วงวิกฤต คุณสามารถใช้ข้อมูลที่คุณมีและเทคโนโลยี AI หา “ความไม่ปกติ” ที่อาจเกิดขึ้นในพฤติกรรมของลูกค้าคุณ และมองหา “ความสนใจใหม่ๆ” ของลูกค้าที่จะช่วยฟื้นฟูธุรกิจคุณได้  ลูกค้าหลายรายเต็มใจที่จะเดินทางเร็วกว่าคนอื่นๆเมื่อการล็อคดาวน์เริ่มคลายตัว เช่น

• นักธุรกิจ

• ผู้ที่ต้องเดินทางเพราะเหตุจำเป็น เช่น งานแต่งงาน, งานเลี้ยงรุ่น หรืออื่นๆ

• นักเดินทางที่ยังไม่ได้ยกเลิกการเดินทาง และยังหวังว่าจะเดินทางได้ทันทีเมื่อรัฐบาลประกาศคลายล็อคดาวน์

• วัย Millennials หรือ Gen Z ที่ต้องการเดินทางทันทีเมื่อมีข้อเสนอ หรือส่วนลดที่น่าสนใจ

• สำหรับร้านอาหาร แน่นอนว่ามีลูกค้าที่ยินดีรับประทานอาหารนอกบ้านทันทีที่ที่การล็อคดาวน์ได้รับการการผ่อนปรน

• หาลูกค้าที่ชอบ Dining Out จากฐานข้อมูลของคุณแล้ววางลำดับพวกเขาไว้เป็นอันดับต้นๆของ Engagement List พวกเขาจะเป็นลูกค้าคนสำคัญที่ทำให้ธุรกิจของคุณฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว

• ลูกค้าเหล่านั้นก็มีโอกาสในการสั่งอาหารเดลิเวอรี่ด้วยเช่นกัน

2. ปรับใช้ Digital Self-Service กับธุรกิจของคุณ
สำหรับบริษัทท่องเที่ยว ด้วยพฤติกรรมของลูกค้าที่เปลี่ยนจาก “การจอง” เป็นการ “ยกเลิก” เป็นจำนวนมาก ในขณะที่ Call Center ก็รับสายอย่างนับไม่ถ้วนพร้อมคำถามที่เกิดขึ้นมากมาย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคำถามที่นอกเหนือจากคำถามที่ Call Center ตอบประจำเนื่องจากนโยบายใหม่ที่เกิดช่วงวิกฤต เช่น การผ่อนปรนค่าธรรมเนียมของการยกเลิกการเดินทาง หรือทริปที่ไม่สามารถยกเลิกได้ ฯลฯ แบรนด์และ Call Center ควรปฎิบัติกับลูกค้าด้วยความห่วงใย “อย่างจริงใจ” การได้ข้อมูลเชิงลึกจาก Call Center ผ่าน AI และการทำความเข้าใจกับคำถามที่ถูกถามบ่อยๆ รวมถึงการสร้าง FAQ จะช่วยลดระยะเวลาที่ใช้ในการโทรสอบถามได้ แม้ว่าอาจช่วยลดจำนวนการโทรได้ไม่มากนัก

บริษัทท่องเที่ยวสามารถลดค่าใช้จ่ายของ Call Center ได้โดย:

• วิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกจาก Call Center เพื่อสร้าง resource ใหม่สำหรับลูกค้าที่ได้จาก FAQ

• ลดคำถามที่เข้ามาทาง Call Center ด้วยการให้ลูกค้าสามารถทำการจองใหม่แบบง่ายที่สุดผ่านช่องทางดิจิทัล

• เพิ่มความสะดวกกับลูกค้าด้วยการใช้งาน mobile site, แอพ และการจองด้วยตนเอง (Self-Service)

• ระบุตำแหน่งในเว็บไซต์ หรือช่องทางดิจิทัลอื่นๆให้ชัดเจน เพื่อให้การจองด้วยตนเองง่ายขึ้น

สำหรับธุรกิจร้านอาหาร Digital Self-service ถือเป็นรูปแบบใหม่ที่ยืดหยุ่น Food Delivery Partner มีความจำเป็นกับธุรกิจร้านอาหารมากในเวลานี้ และการปรับตัวจะไม่ได้ขึ้นเพียงแค่ในกระบวนการดำเนินงานเท่านั้น ยังเกิดขึ้นกับทรัพยากรดิจิทัลด้วยเช่นกัน  ธุรกิจร้านอาหารสามารถเปลี่ยนจากแบบดั้งเดิมสู่ดิจิทัลได้โดย:

• แจ้งลูกค้าว่าคุณเปิดธุรกิจแล้วแต่เป็นรูปแบบใหม่

• แจ้งรายละเอียดเพิ่มเติมถึงวิธีที่สามารถจัดส่งอาหารแบบลดการสัมผัส และสามารถเว้นระยะห่างเพื่อความปลอดภัย

• ตรวจสอบให้แน่ใจว่า Digital Journey นี้ พนักงานของคุณ ปฏิบัติงาน สื่อสาร และใช้ดิจิทัลได้อย่างราบรื่นในทุกขั้นตอน

• ให้ความสำคัญเกี่ยวกับการจัดเตรียมอาหาร และการจัดส่งอาหารที่ปลอดภัย

3. การสื่อสารเชิงรุก
เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน อาจทำให้บางคนกลายเป็นคนที่จับจ้องในสิ่งใดสิ่งหนึ่งมากเกินไป หรือทำให้บางคนอาจเสียการควบคุมตัวเอง หนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดที่แบรนด์ใช้ในการสนับสนุนลูกค้า คือการสร้างความไว้วางใจโดยการเป็น “ที่ปรึกษาที่เชื่อถือได้” (Trusted Advisor) สำหรับในในธุรกิจท่องเที่ยวนั่นหมายถึง การสื่อสารที่รวดเร็ว แม่นยำ และทันเวลาในทุกสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เมื่อมีนักเดินทางที่ต้องการยกเลิกการเดินทาง แบรนด์ควรเข้าใจ เห็นใจในสถานการณ์ และช่วยเหลือพวกเขาอย่าง “จริงใจ” ผ่านทั้งช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ ผลการสำรวจจาก Crisp พบว่า ผู้บริโภค 9 ใน 10 คน มีแนวโน้มที่จะซื้อสินค้ากับแบรนด์ที่จัดการวิกฤตได้ดี

สำหรับธุรกิจร้านอาหาร การกลับมาเปิดอีกครั้งอาจทำให้การบริการลูกค้าล่าช้า ดังนั้นการสื่อสาร เช่น การขอโทษลูกค้าล่วงหน้าที่ทางร้านอาจยังให้การบริการลูกค้าที่ไม่สมบูรณ์ หรือเกิดความล่าช้าในการให้บริการ เช่น พนักงานเสิร์ฟอาหารไม่ทันเวลาที่กำหนด เนื่องจากความท้าทายต่างๆ เช่น พนักงานยังกลับมาทำงานไม่ครบ ซัพพลายเออร์ที่ยังมีข้อจำกัดในการขนส่ง ฯลฯ การสื่อสารที่ตรงไปตรงมาและจริงใจจะช่วยบริหารความพอใจของลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมใดๆ การสื่อสารเชิงรุกเฉพาะบุคคลมีความสำคัญอย่างมากที่จะช่วยให้ลูกค้าเข้าใจในสถานการณ์ของผู้ประกอบการ

โดย จูลี่ ฮอฟแมน, หัวหน้ากลยุทธ์ด้านการตลาดและการท่องเที่ยว, อะโดบี